วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2552

วัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร

วัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร



เป็นวัดโบราณสร้างขึ้นก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ถูกทิ้งร้างไปนานจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ในรัชกาลที่ ๒ กรมสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์บรมราชินี ทรงปฏิสังขรณ์ทรงปฏิสังขรณ์บำเพ็ญพระกุศลเป็นอันมากเรียบร้อยแล้วให้ฉลองสมโภช เมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๑ และขนานนามว่า “วัดเขมา” ต่อมารัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงบูรณะปฏิสังขรณ์ ในวันพุธ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือนยี่ ตรงกับวันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๐๖ ได้เสด็จฉลองวัดเขมาภิรตาราม แล้วพระราชทานนามว่า “วัดเขมาภิรตาราม” ภายในวัดมีโบราณสถานที่สำคัญ คือ พระตำหนักแดง อนุสรณ์กรมสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ พระที่นั่งมูลมณเฑียร ซึ่งเดิมเป็นพระตำหนักในพระบรมมหาราชวัง รัชกาลที่ ๕ ทรงพระราชอุทิศ ให้รื้อมาปลูกในวัดนี้ สถานภาพของวัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชั้น วรวิหาร ตั้งอยู่เลขที่ ๗๔ หมู่ที่ ๘ ถนนพิบูลสงคราม ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี อยู่ด้านใต้ตัวเมืองนนทบุรีริมฝั่งด้านตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา มีพื้นที่ ๒๖ ไร่ ห่างจากสะพานพระราม ๗ ไปทางทิศเหนือตามถนนพิบูลสงครามประมาณ ๑.๗ กิโลเมตร

ตลาดน้ำอัมพวา

ตลาดน้ำอัมพวา


อัมพวาเป็นตลาดน้ำยามเย็นเปิดตั้งแต่บ่ายสามโมงเย็น จนถึงสองทุ่มทีเดียว
จุดมุ่งหมายของอัมพวาที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางไปเที่ยวก็คือ การได้ริ้มชิมรสชาติอาหารต่างๆ ที่พ่อค้าแม่ขายมีวางขายกันไม่ว่าจะเป็น "กระเพาะปลาอัมพวา ก๋วยตี๋ยวโบราณอัมพวา ข้าวเหนียวมะม่วงอัมพวา หอยทอดยอดชายอัมพวา ทอดมันสมุนไพรหัวปรีอัมพวา วังแสงกาแฟโบราณอัมพวา ปอเปี๊ยะอัมพวา ร้านข้าวราดแกงหัวมุมอัมพวา น้ำพร้าวอัมพวา เฉาก๊วยอัมพวา" และอีกมากมายหลายอย่างที่คนอัมพวาเค้านำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นผลไม้อย่างส้มโออัมพวา ลิ้นจี่อัมพวา มากมายหลายอย่างให้เลือกของแห้ง ของคาว ของสด อิ่มหนำสำราญกันไปเลย แต่จะให่อร่อยต้องกินกันตรงนั้นเลย เบียดกันนิดเบียดกันหน่อยอบอุ่นดีครับ เพราะบรรยากาศเหมือนอยู่บ้านเลย อยากกินไรก็ตะโกนสั่งตรงนั้น นั่งกินตรงนั้น กินอิ่มแล้วก็ลุก คนข้างหลังจะได้กินมั่ง วนเวียนกันไปจะได้ทั่วถึง

วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2552

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ


ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ สนามบินสุวรรณภูมิ (ชื่อเดิม: สนามบินหนองงูเห่า)
เป็นสนามบินตั้งอยู่ที่ ถนนบางนา-ตราด ในตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เปิดใช้งานวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 โดยใช้งานแทนท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง นโยบายรัฐบาลได้กำหนดท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิเป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศ และจะเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์
จากข้อมูลการจัดอันดับล่าสุดของเว็บไซต์ "สมาร์ตทราเวลดอตคอม" ที่มีการสำรวจความเห็นของผู้เดินทางทั่วโลกเปิดเผยว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของไทยนั้นได้รับการจัดอันดับให้เป็นท่าอากาศยานยอดเยี่ยมอันดับที่ 4 ของโลก รองจากท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง ท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงี และท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย

โบสถ์เซนต์โซเฟีย

โบสถ์เซนต์โซเฟีย


โบสถ์เซนต์โซเฟีย อยู่ในกรุงคอนสแตนติโนเปิล ประเทศตุรกี สร้างโดยจักรพรรดิคอนสแตนติน ใช้เวลาสร้างอยู่ 17 ปี แต่ถูกพวกก่อการร้ายบุกทำลายหลายครั้ง


ต่อมาจักรพรรดิจูสติเนียน มีอำนาจเหนือตุรกีจำได้สร้างโบสถ์เซนต์เฟียขึ้นมาใหม่พร้อมด้วยการสร้างเมือง เมื่อปี ค.ศ.1435 สำหรับโบสถ์นั้นประดับไปด้วยของมีค่าต่างๆ ใช้เวลา สร้างฐานอยู่ 20 ปีตัวโบสถ์ 5 ปี ต่อมาเกิดแผ่นดินไหวทำให้แตกร้าวต้องให้ช่างซ่อมแซม ให้เรียบร้อยในสภาพเดิมเมื่อสิ้นสมัยของจักรพรรดิจูสติเนียน ถึงสมัยพระเจ้าโมฮัมเม็ดที่ 2 มีอำนาจเหนือตุรกีและเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลามได้ดัดแปลงโลสถ์หลังนี้ให้เป็นสุเหร่าอิสลาม แต่ยังคงลวดลายไว้เช่นเดิม



โบสถ์เซนต์โซเฟีย อยู่ในกรุงคอนสแตนติโนเปิล ประเทศตุรกี สร้างโดยจักรพรรดิคอนสแตนติน ใช้เวลาสร้างอยู่ 17 ปี แต่ถูกพวกก่อการร้ายบุกทำลายหลายครั้ง ต่อมาจักรพรรดิจูสติเนียน มีอำนาจเหนือตุรกีจำได้สร้างโบสถ์เซนต์เฟียขึ้นมาใหม่พร้อมด้วยการสร้างเมือง เมื่อปี ค.ศ.1435 สำหรับโบสถ์นั้นประดับไปด้วยของมีค่าต่างๆ ใช้เวลา สร้างฐานอยู่ 20 ปีตัวโบสถ์ 5 ปี ต่อมาเกิดแผ่นดินไหวทำให้แตกร้าวต้องให้ช่างซ่อมแซม ให้เรียบร้อยในสภาพเดิมเมื่อสิ้นสมัยของจักรพรรดิจูสติเนียน ถึงสมัยพระเจ้าโมฮัมเม็ดที่ 2 มีอำนาจเหนือตุรกีและเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลามได้ดัดแปลงโลสถ์หลังนี้ให้เป็นสุเหร่าอิสลาม แต่ยังคงลวดลายไว้เช่นเดิม

กองหินประหลาด ประเทศอังกฤษ (Stone Henge, Salisbury, England)

กองหินประหลาด ประเทศอังกฤษ (Stone Henge, Salisbury, England)


ตั้งอยู่มณฑลวิลไซร์ กลางทุ่งนาเมืองซัลลิสเบอรี่ ห่างจากกรุงลอนดอนราว 10 ไมล์ เป็นก้อนหินขนาดใหญ่วางตั้งเป็นรูปวงกลมซ้อนกัน 3 รอบ วางนอนกับพื้น และวางทับกันบนยอด จำนวน 112 ก้อน แต่ละก้อนมีความสูงราว 13 ฟุต มีผู้พบเห็น หินเหล่านี้มาตั้งอยู่ตั้งแต่ก่อนคริสตกาลที่น่าแปลกก็คือ ในบริเวณกลางทุ่งแห่งนี้ไม่มี แม้แต่ภูเขาหรือหิน จึงไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นคนนำเอาหินเหล่านี้มาตั้งไว้ได้อย่างไรและสามารถวางซ้อนกันขึ้นได้อย่างไร และด้วยเหตุผลอะไร ในปัจจุบันก็ยังหาคำตอบ เหล่านี้ไม่ได้ นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ 1 ใน 7 ของโลกอีกแห่งหนึ่ง

สนามกีฬาแห่งกรุงโรม (The colosseum of Rome)

สนามกีฬาแห่งกรุงโรม (The colosseum of Rome)


สนามกีฬาแห่งกรุงโรม เป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ที่เริ่มสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเวสปาเซียนแห่งอาณาจักรโรมัน และสร้างเสร็จในสมัยของจักรพรรดิติตัส (Titus) ในคริสต์ศตวรรษที่ 1 หรือ ประมาณปี ค.ศ. 80 อัฒจันทร์เป็นรูปวงกลมก่อด้วยอิฐและหินทรายวัดโดยรอบได้ประมาณ 527 เมตร สูง 57 เมตร สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน ใต้อัฒจรรย์มีห้องใต้ดินที่สร้างขึ้นเพื่อขังสิงโตและนักโทษประหาร ก่อนปล่อยให้ออกมาต่อสู้กันกลางสนาม นอกจากนี้ยังใช้เป็นสถานที่ประลองฝีมือของเหล่าอัศวินในยุคนั้น ปัจจุบันยังคงเหลือโครงสร้างเกือบสมบูรณ์ตั้งเด่นเป็นโบราณสถานที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ทั่วโลก

หอเอนเมืองปิซา


สถานที่ตั้ง ประเทศอิตาลี
ปัจจุบัน สามารถเข้าเยี่ยมชมได้
หอเอนแห่งเมืองปิซา สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว สูง 181 ฟุต มี 8 ชั้น แต่ละชั้นมีเสาหินอ่อนรองรับ ได้ลงมือสร้างเมื่อ ค.ศ. 1174 ไปเสร็จในปี ค.ศ. 1350 ใช้เวานานถึง 176 ปี ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใช้เวลาสร้างนานที่สุดในโลก พอสร้างเสร็จฐานก็ทรุดลงไปข้างหนึ่ง ทำให้เอียงออกไปจากเส้นดิ่ง 4 เมตร แต่ที่ไม่ล้มลงมา เพราะแรงที่จุดศูนย์ถ่วง เมื่อลากดิ่งลงมาไม่ออกนอกฐานจึงไม่ล้มยังทรงตัวอยู่ได้ และหอเอนเมืองปิซานี้ช่วยให้กาลิเลโอ นักวิทยาศาสตร์ ชาวอิตาเลียน ผู้มีชื่อเสียงของโลก ได้ทดลองความจริง เรื่องน้ำหนักของของที่ตกเป็นผลสำเร็จ

กำแพงเมืองจีน (The Great Wall of China)

กำแพงเมืองจีน (The Great Wall of China)



กำแพงเมืองจีนสร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 332 - 339 โดยจิ๋นซีฮ่องเต้ เป็นกำแพงอิฐที่ยาวที่สุดในโลก

ซึ่งยาวประมาณ 2400 กิโลเมตร เพื่อป้องกันการรุกรานจากชาวตาตาร์ กำแพงสร้างด้วยดิน หิน และก่ออิฐโดยรอบ มีการสร้างป้อมปราการประมาณ 15,000 แห่ง มีฐานกว้างประมาณ 20 ฟุต ทางเดินกว้างประมาณ 12 ฟุต สูงประมาณ 25 ฟุต มีระฆังบอกเหตุประมาณ 20,000 หอ ใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 10 ปี โดยแรงงานของประชาชนนับล้านคนและมีผู้เสียชีวิตในระหว่างการสร้างประมาณหมื่นคน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากพอสมควร ปัจจุบันกำแพงเมืองจีนได้รับการบูรณะซ่อมแซมในส่วนที่ชำรุดเสียหาย ซึ่งทำให้กำแพงเมืองจีนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสภาพสมบูรณ์สวยงาม

ที่มา http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/st2545/4-5/no02-07/greatwall.html

ทัชมาฮาล (Taj Mahal)

ทัชมาฮาล (Taj Mahal)



ทัชมาฮาล เป็นสุสานหินอ่อนขนาดใหญ่ที่สวยงามสมบูรณ์ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยมนา

เมืองอักรา ประเทศอินเดีย

ทัชมาฮาลสร้างขึ้นมาในคริสต์ศตวรรษที่ 17 เมื่อประมาณค.ศ. 1630 - 1652 ใช้เวลาก่อสร้าง 17 ปี ใช้เวลาตกแต่ง 5 ปี รวมเวลาทั้งหมด 22 ปี ใข้งบประมาณก่อสร้างประมาณ 30 ล้านรูปี โดยพระเจ้าชาห์ เจฮัล กษัตริย์แห่งราชวงศ์โมกุล เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่มีต่อพระมเหสีมุมตัส สุสานทัชมาฮาลสร้างด้วยหินอ่อนสีขาวเป็นรูปโดมตามแบบสถาปัตยกรรมเปอร์เซียสูง 61 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมที่มีความกว้างด้านละ 95 เมตรหนา 5 เมตร มีหอคอยยอดแหลมสูง 95 เมตร ตั้งอยู่ที่มุมของฐานประจำ 4 ทิศ ใช้คนงานในการสร้างประมาณ 22,000 คนควบคุมการสร้างโดย อัสตาด ไอซา สถาปนิกในสมัยนั้น

ที่มา http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/st2545/4-5/no02-07/touch.html

สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

ปราสาทหินนครวัด




ตำแหน่งที่ตั้ง
ประเทศกัมพูชา ห่างจากเมืองเสียมราฐประมาณ 8 กิโลเมตร

ปัจจุบัน
สามารถเข้าเยี่ยมชมได้

รายละเอียด
เป็นปราสาทหินที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุดของขอม ซึ่งนครธมได้สร้างขึ้นก่อนนครวัด โดยนครธมสร้างเมื่อประมาณ ค.ศ.1345-1412 ในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 และที่ 2 นครธมมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 25,000 ไร่ ประกอบด้วยปราสาทกระจัดกระจายอยู่ตามบริเวณต่างๆ ไม่ต่ำกว่า600 แห่ง ตัวนครธมเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีคูเมือง กำแพง ป้อมปราการสวยงาม แข็งแรง สร้างด้วยหินในเนื้อที่ 5,500 ไร่ ปราสาทของนครธมทุกยอด เป็นหน้าพรหมเกือบทั้งสิ้น ล้อมรอบด้วยปราสาทเล็ก มีชื่อเรียกต่างๆ เช่น ปราสาทแปรรูป ปราสาทแม่บุญ ปราสาทบายน เป็นต้น ส่วนนครวัด เป็นศิลปะที่สร้างด้วยหินเช่นเดียวกับนครธม สร้างเมื่อประมาณ ค.ศ.1643 ในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เป็นปราสาทหิน 3 ชั้น หรือ 3 ตอน ประกอบด้วยคูเมืองขนาดใหญ่ มีเขื่อนก่อสร้างด้วยศิลารอบทั้ง 4 ทิศ มีสะพานหินใหญ่โต นครวัด-นครธม สร้างด้วยฝีมือมนุษย์และการแกะสลักลวดลายลงบนหินที่สวยงามมาก แต่การสร้างนครทั้งสองนี้ก็ทำให้ขอมสูญเสียกำลังคนและทรัพย์สิน เป็นจำนวนมากจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ขอมถูกยึดอำนาจคืน จนในที่สุดขอมก็หมดสิ้นอำนาจไป